ตามเรื่องเล่าขาลตามตำนานเนินนานมาแล้วตามเดิมของจังหวัดพิจิตไอ้ด่างเกยไชยนั้นคือจระเข้ยักษ์ที่อาละวาดกินคนอยู่ในแม่น้ำน่านหลายปีเลยทีเดียวและยังเป็นจระเข้ที่ดูร้ายไล่อาระวาดกินคนทั้งสองฝากฝั่งแม่น้ำเป็นจำนวนมากเลยทำให้เป็นเรื่องเล่าขาลตำนานมามากกว่าหลายร้อยปีแล้ว ตามเรื่องเล่านั้นจระเข้ตัวนี้มีขนาดที่ใหญ่มากแล้วทำการก่อกวนเลยทำให้ยุคสมัยนั้นได้มีการนำเรื่องของไอ้ด่างเกยไชยหนังนั่นเองและตอนนั้น ประมานปีสองพันห้าร้อยสามสิบสองคนที่รับบทเล่นเป็นพระเอกคือ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นั้นเองและนางเอกที่เล่นคู่กันกับบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ก็คือ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ทั้งตอนนั้นสองคนนั้นเป็นนางเอกคู่นางที่กำลังมาแรงเลยในตอนนั้นขณะนั้นอิกด้วยและบิณฑ์ บันลือฤทธิ์รับบทเป็นไอ้จ้อยและเนาวรัตน์ ยุกตะนันท์รับบทเป็นอีแจ่วและเรื่องราวเนื้อเรื่องก็มีประมาณว่าแจ่วนั้นเป็นลูกสาวของพ่อค้าขายข้างคนรวยซึ่งทำงานเกี่ยวการขนส่งทางเรือและจ้อยนั้นเป็นเด็กวัดเลยทำให้ทั้งสองชอบหากันและความรักของเค้าก็มีแม่น้ำคั่นกลางอยู่และตอนนั้นเองก็เป็นจังหวะเดี่ยวกับที่ไอ้ด่างเกยไชยนั้นกำลังไล่ล่าหาเหยื่อกินอยู่พอดีและยังเป็นเวลาที่จ้อยนั้นกำลังภายเรือไปจีบแจ่วอยู่และได้เห็นไอ้ด่างเกยไชยกำลังไล่ฆ่าคนอยู่พอดีเลยทำให้ไอ้ด่างเกยไชยนั้นเห็นพอดีเลยทำให้ไอ้ด่างเกยไชยนั้นได้พุ่งเป่าหมายมาหานางแจ่วและได้ทำการกระชากแจ่วลงไปสู่แม่น้ำและทำให้แจ่วตายลงตอนนั้นส่วนจ้อยนั้นว่ายน้ำหนีตายลอกออกมาได้และในตอนนั้นเองเลยทำให้พ่อของแจ่วเศรษฐีค้าข้าวโกธรและโมโหมากเลยทำให้ได้มีการจ้างวานหนุ่มๆและคนในละแวกนั้นใครสามารถสังหารหรือแก้แค้นแล้วนำเอาหัวของไอ้ด่างเกยไชยมาให้ได้เค้าจะจบรางวัลอย่างงามเลยทำให้ไอ้จ้อยนั้นอาสาออกไปสังหารมันเองและในการไล่ล่านั้นไอ้จ้อยก็ได้ไปเจอตัวอยู่ที่ชายริมป่าข้างแม่น้ำและตอนนั้นเองพวกของจ้อยแล้วก็จ้อยน้ำอาวุธครบมือเลยทำการยิงปืนเข้าใส่ระปาระเบิดใส่ไปเจ็ดลูกด้วยตัวไอ้ด่างเกยไชยนั้นมีตัวที่ใหญ่มากเลยทำให้กว่าจะตายได้ต้องมีการปาระเบิดถึงเจ็ดลูกเลยนั้นก็คือจุดจบของไอ้ด่างเกยไชยและนี่ก็คือเรื่องเล่าย่อๆของไอ้ด่างเกยไชยและที่นำมาทำเป็นหนังและเรื่องเล่ากันมาจนเป็นตำนานจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเองอีกด้วย